สามารถค้นหาได้จาก ชื่อเรื่อง,ชื่อผู้เขียนบทความ หรือ Keyword (คำสำคัญ)
หมวดหมู่
Original Article
Routine To Research
Innovation
R2R
Special Article
Clinical Tracer
Editorial
Letter to the Editor
บทบรรณาธิการ
จดหมายถึงบรรณาธิการ
นานาสาระ
บทบรรณาธิการรับเชิญ
Topic Review
จดหมายเปิดผนึก
เข้าสู่ระบบ/สมัครสมาชิก
หน้าหลัก
เกี่ยวกับเรา
จริยธรรม
วารสาร
รายการวารสาร
161 บทความ
คำแนะนำสำหรับผู้เขียน
กองบรรณาธิการ
ข่าวสาร
ส่งบทความ
ติดต่อเรา
บรรณาธิการแถลง (วารสาร ปี 2 ฉบับที่ 2)
หน้าหลัก
/
ข่าวสาร
/ บรรณาธิการแถลง (วารสาร ปี 2 ฉบับที่ 2)
วันที่ :
1 April 2021 / 677 views
ผมเข้าเรียนแพทย์ที่ขอนแก่นเมื่อปี 2527 และจบในปี 2533 เรียนต่อเป็นอายุรแพทย์ และอายุรแพทย์ระบบ ประสาท ที่คณะแพทย์ขอนแก่นเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นไปเรียนต่อด้านโรคลมชักที่ประเทศอังกฤษ แล้วกลับมาเป็นอาจารย์ สอนนักศึกษาแพทย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และหมอรักษาคนไข้มาจนถึงปัจจุบัน ผมเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ มา 20 ปี แต่ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมานี้ ผมพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในสังคมที่ เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่า ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่แพทย์รุ่นใหม่จะเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน
การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ดี บ่งบอกถึงการพัฒนาการในทางที่ควรจะเป็น เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม หรือ สังคมที่แพทย์เราก็เป็นส่วนหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายขนาดไหน ทุกอย่างก็ยังต้องมีแก่นแท้ของสิ่งนั้นคงอยู่ เสมอ ผมเลยอยากฝากความในใจของผมให้น้องๆ ได้รับรู้ไว้บ้าง
1. หมอ ผมชอบคำเรียกแพทย์ว่า “หมอ” ให้ความรู้สึกที่ดี หมอ ประกอบด้วย ห หีบ, ม ม้า และ อ อ่าง ซึ่งผม ให้ความหมายของอักษรแต่ละตัว คือ ห หีบ คือ ผู้ให้, ม ม้า คือ ผู้มีความเมตตา และ อ อ่าง คือ ผู้มีความอดทน
2. หมอ คือ บุคคลที่สังคมให้ความนับถือ และฝากความหวังไว้กับหมอว่าต้องสามารถช่วยเหลือให้คนเจ็บป่วย หายป่วย พ้นจากความทุกข์ทรมานได้
3. หมอ คือ อาชีพหนึ่งที่มีความรับผิดชอบในหน้าที่การงานสูงมากๆ หรือพลาดไม่ได้เลย แต่ในชีวิตจริงนั้น ก็คงไม่ สามารถรักษาคนไข้ให้หายทุกคนได้ ดังนั้นเราต้องเป็นหมอมืออาชีพที่ต้องสามารถให้การดูแลรักษาผู้ป่วยได้เป็นอย่างดีที่สุด
4. หมอ คือ อาชีพหนึ่งที่ต้องพร้อมในการทำงานตลอดเวลา ทำงานแบบไม่มีวันหยุด ถึงแม้อาชีพอื่นๆ จะมี วันหยุด เพราะการเจ็บป่วยไม่เลือกเวลาว่าเป็นวันหยุด หรือวันราชการ ในเวลาหรือนอกเวลาราชการ ดังนั้นหมอจึงต้องพร้อม ให้คำปรึกษาผู้ป่วย หรือทีมแพทย์ พยาบาล ถึงแม้จะไม่ได้อยู่เวรก็ตาม
5. หมอ คือ คนที่ต้องอดทนต่อความหิว ต่อการปวดปัสสาวะ เพราะถ้ากำลังทำหัตถการรักษาผู้ป่วย เช่น การผ่าตัด การฟื้นกู้ชีพผู้ป่วย ก็ไม่สามารถหยุดการรักษาผู้ป่วย เพื่อไปทานอาหาร หรือเข้าห้องนํ้าได้
6. หมอ คือ ผู้ที่ต้องทนทุกข์ใจยามคนรัก คนในครอบครัวเจ็บป่วย หมออาจไม่สามารถลาไปดูแล ลาไปให้ กำลังใจได้ เพราะที่โรงพยาบาลไม่มีหมอท่านอื่นๆ ทำหน้าที่แทนได้
7. หมอ คือ คนที่ต้องอดนอนได้อย่างน้อย 1 คืน คือต้องสามารถทำงานได้ต่อเนื่องกันประมาณ 36 ชั่วโมง
8. หมอ คือ คนที่มีความเสี่ยงสูงในการขับรถแล้วเกิดอุบัติเหตุ เพราะมีโอกาสหลับใน หลับไปแบบไม่รู้ตัว แบบไม่ได้ตั้งใจ แต่ร่างกายไม่เหนื่อยล้าจนขอหยุดพักไปเอง ทั้งที่หัวใจและสมองสั่งว่าต้องไหว แต่ร่างกายมันไม่ไหว เราจึง ต้องสูญเสียหมอจากการเกิดอุบัติเหตุในทุกๆ ปี
9. หมอ คือ คนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง เพราะงานที่ทำนั้นมีแต่ ความเครียดตลอดเวลา
10. หมอ คือ คนธรรมดาคนหนึ่ง แต่สังคมให้โอกาส ให้ความคาดหวัง ให้เกียรติ ให้งาน ให้อะไรต่อมิอะไรมากมาย จนหมอรับภาระต่างๆ นั้นไม่ไหว
ผมเชื่อมั่นว่าคนที่ตั้งใจจะเป็นหมอนั้นจะมีความพร้อมในการรับมือกับโอกาส และภาระต่างๆ มากมายได้ แต่ก็มี หมออีกจำนวนมากที่อาจรับมือกับสิ่งต่างๆ ที่ต้องรับผิดชอบไม่ไหว ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีวิต ต่อครอบครัว อาจก่อให้เกิดปัญหาระหว่างผู้ป่วยกับหมอ หมอกับเพื่อนร่วมงาน หมอส่วนหนึ่งมีภาวะซึมเศร้า หมอส่วนหนึ่งมีภาวะหมดไฟ
ผมเองในฐานะครูแพทย์ หมอรักษาคนไข้ สามีของภรรยา พ่อของลูก และลูกของพ่อ แม่ ผมพยายามจะทำให้ชีวิต มีความสมดุลมากที่สุด หรือที่เขาเรียกขานกันว่า “work life balance” แต่ชีวิตจริงกลายเป็น “work ไร้ balance”
ผมจึงอยากบอกกับน้องหมอทุกคน และผู้คนในสังคมให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันว่า หมอและทุกๆ อาชีพก็ต้อง พยายามทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อให้สังคมมีความสงบสุข คนไทยทุกคนมีความสุขมากขึ้น มีความทุกข์น้อยลง
รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า
บรรณาธิการ
ไฟล์แนบ
KUHJ - การตรวจประเมินวารสาร